Gameboy ครบรอบ 30 ปี เครื่องเกมส์พกพาที่วัยเด็กทุกคนหลงรัก

ถ้าพูดถึงวิดีโอเกมในสมัยประมาณ 30 กว่าปีก่อน เราก็คงนึกภาพแค่ว่า วิดีโอเกมเป็นสิ่งที่เอาไว้เล่นกับโทรทัศน์ที่บ้านหรือเกมอาร์เคดเท่านั้น น้อยคนมากที่จะนึกถึงเกมแบบพกพาหรือเกมกด เพราะด้วยเทคโนโลยีที่จำกัด แค่เกมกดแบบรันภาพซ้ำไปซ้ำมาก็หรูแล้ว แต่การมาของเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่ของ Nintendo นั้นเรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของวงการเกมในยุค 90 ไปตลอดกาลเลยทีเดียว

ในยุค 80 นั้น Nintendo เริ่มมีชื่อเสียงจากการวางจำหน่ายเครื่องเกม Famicom หรือ Nintendo Entertainment System มาก่อนแล้ว และมันก็เป็นเครื่องเกมที่จุดกระแสให้อุตสาหกรรมเกมกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้งได้สำเร็จ ผู้พัฒนาหลายเจ้าทั้งในญี่ปุ่นและอเมริกาต่างได้แจ้งเกิดกันมากมาย โดยเฉพาะ Nintendo ที่มีเกมระดับตำนานหลายต่อหลายเกมมาดูดเงินในกระเป๋าเกมเมอร์อยู่อย่างต่อเนื่อง

และ Gameboy ก็เป็นโปรเจกต์ใหม่ที่ทาง Nintendo ทุ่มทุนอย่างมาก เพราะการที่พวกเขาเองก็มีประสบการณ์ในการทำเกมกดอย่าง Game & Watch มาก่อน แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนตลับเล่นได้ ต้องซื้อเป็นเครื่อง ๆ ไปเมื่อต้องการจะเล่นเกมใหม่ และถ้าหากพวกเขาสามารถเครื่องเล่นเกมแบบพกพาที่สามารถเปลี่ยนตลับระหว่างเล่นได้ มันจะออกมาสุดยอดแค่ไหน

ดังนั้นโปรเจกต์การพัฒนาเครื่องเกมพกพานี้จึงเริ่มต้นขึ้น โดยใช้รหัสในการพัฒนาในชื่อว่า Dot Matrix Game ซึ่งก็มาจากภาพกราฟฟิกของเกมแบบที่จุด Pixel ขาวดำนั่นเอง

ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายกับตัวเครื่องที่ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ภาพกราฟฟิกที่แม้จะมีแค่สองสีคือดำกับเขียวแบบ Monochrome ตามสีของหน้าจอ แต่ก็ออกมาชัดเจนและสวยงาม รวมไปถึงระบบการควบคุมต่าง ๆ ที่ไม่ต่างจากเครื่อง NES แม้แต่น้อย และยิ่งการที่สามารถเปลี่ยนตลับเกมได้ก็ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่มากในยุคนั้น จนทำให้มันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทั้งที่มีเกมออกวางขายในตอนนั้นพร้อมกันเพียงแค่ Super Mario Land และ Tetris เท่านั้น

แน่นอนว่าเกมแบบพกพาที่เปลี่ยนตลับได้ในยุคนั้นยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้ Gameboy ได้รับความสนใจอย่างมากทันที และตัวเกมเองยังใช้แบตเตอรี่ที่หาได้ง่ายอย่างถ่านแบบ AA 4 ก้อนเท่านั้น แถมยังเล่นได้นานหลายชั่วโมง ด้วยความที่พกสะดวก เล่นสบาย อยากเล่นที่ไหนก็หยิบมาเล่นได้ทันที (ยกเว้นในที่แสงน้อย) ทำให้ยอดขายของมันนั้นพุ่งทะยานสูงถึง 118.69 ล้านเครื่อง เรียกว่าในยุคนั้นใครไม่มี Gameboy นี่ถือว่าเชยได้เลย

ด้วยยอดขายที่ดีขนาดนี้ และตัวเกมที่เรียกว่าแทบจะสนุกเท่าเทียมกับบนเครื่องในบ้าน ทำให้ไม่แปลกใจที่เราจะได้เห็นเกมดี ๆ ออกมามากมายตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม เช่น Super Mario, Tetris, Rockman World, Zelda ไล่มาจนถึง Pokemon, Yu Gi Oh และอีกมากมาย เรียกว่าแค่จำนวนเกมก็แทบจะสูสีกับที่วางขายบน NES แล้ว

แม้จะมีคู่แข่งที่ออกมาต่อกรกับพวกเขามากมายอย่างเช่น Game Gear จาก Sega หรือ PSP ของ Sony แต่พวกเขาก็ยังยืดหยัดเป็นหนึ่งในเครื่องเกมมือถือที่ขายดีที่สุดของยุค และต่อยอดไปสู่เครื่องเล่นเกมใหม่ ๆ อย่าง Nintendo DS หรือ Nintendo Switch ที่หลอมรวมความเป็น Console และ Handheld ได้อย่างลงตัว ซึ่งหลายนั้นสามารถต่อยอดออกมา ก็ได้ Gameboy นี่แหละเป็นรากฐานให้วางแผนพัฒนาไปได้มาจนถึงตอนนี้

และนี้ก็คือ ตำนาน 30 ปี Gameboy ของทางค่าย Nintendo จากอดีตจนถึงตอนนี้ Gameboy ได้ผ่านตาและผ่านมือเด็กในยุคนั้น คุณเองก็อาจจะเคยเล่นเกมส์เครื่องนี้ เรามาแชร์ประสบการณืกันดีกว่าครับว่า ใครชอบเกมส์ไหนกันบ้าง……